อลูมิเนียม 6061

อลูมิเนียม 6061

Aluminum alloy จากประวัติศาสตร์อันยาวไกลแห่งกระบวนการความรู้ของมนุษย์ ธาตุอลูมิเนียมถูกนำมาใช้ประยุกต์กับชีวิตมนุษย์มานานแล้ว ตั้งแต่ช้อนอลูมิเนียม จนไปถึงเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ และสำหรับจักรยานนั้นอลูมิเนียมก็ถูกนำมาใช้นานแล้ว นานตั้งแต่ก่อนที่จะมีเสือภูเขาเกิดขึ้นด้วยซ้ำไปอีกครับ

ลำพังอลูมิเนียมบริสุทธิ์นั้น จะไม่สามารถนำมาใช้งานหรือเอามาทำโครงสร้างใดๆของจักรยานได้เลย ทั้งนี้เพราะว่าอลูมิเนียมบริสุทธิ์นั้น เปราะ แตก เป็นสนิม ถูกกัดกร่อน ได้โดยง่าย จึงต้องมีการเจือธาตุต่างๆลงไปในอลูมิเนียมบริสุทธิ์ จึงเกิดกลายมาเป็น Aluminum alloy ในที่สุด

ธาตุที่ถูกนำมาเจือนี้ ได้แก่ ทองแดง สังกะสี แมงกานีส ซิลิคอน วานาเดียม แมกนีเซียม สุดแต่ว่าใครจะคิดค้นกันเช่นไร หากเลือกทองแดงเป็นส่วนผสมหลัก( และตามด้วยธาตุอื่นๆเจือลงไป ) ก็จะกลายเป็นอลูมิเนียมในกลุ่ม 6000 ซึ่งมีคุณสมบัติในการทนทานต่อการดัดงอได้ ทนความร้อนและคงความแข็งแรงจากบริเวณรอยเชื่อมได้ และสามารถนำไปอบด้วยความร้อนเพื่อชุบแข็งได้ ในขณะที่หากเลือกสังกะสีเป็นส่วนผสมหลัก( และตามด้วยธาตุอื่นๆเจือลงไป ) ก็จะกลายเป็นอลูมิเนียมในกลุ่ม 7000 ซึ่งจะแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม6000 ( เพื่อเทียบที่น้ำหนักเท่ากัน ) จึงสามารถทำให้เฟรมจักรยานเบาลงได้ แต่กลุ่ม7000 จะทนต่อการดัด หรือความร้อนในบริเวณรอยเชื่อมได้ไม่เท่ากับกลุ่ม6000 รวมไปถึงเมื่อนำมาทำเป็นเฟรมจักรยานแล้วจะให้ความกระด้างมากกว่ากลุ่ม6000

เมื่อนำอลูมินัมอัลลอย มาทำเป็นจักรยาน คุณสมบัติโดยทั่วไปของจักรยานนั้น จะได้แก่ กระด้าง , พุ่ง ไม่ซับแรงกระแทกจากพื้นทางที่ขรุขระ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการพัฒนาส่วนผสมอัลลอยให้เนื้อโลหะสามารถซึมซับ แรงกระแทกได้มากกว่าในอดีตก็ตาม อลูมิเนียมก็ยังคงเป็นอลูมิเนียมวันยังค่ำ นอกไปจากนี้อัลลอยชนิดนี้ยังขาดคุณสมบัติที่เรียกว่า fatigue endurance หรือ ความคงทนต่อการล้าตัว เฟรมอลูมินัมอัลลอยจึงสามารถเกิดการแตกหักเสียหายได้ หลังจากถูกใช้งานโหดๆหนักๆติดต่อกันเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะในส่วนที่จะต้องถูกบิดๆงอๆซ้ำๆซากๆ โดยรอยแตกร้าวมักจะเริ่มจากบริเวณรอยเชื่อม เพราะเป็นจุดบรรจบที่จะรับแรงกระทำสูงที่สุด และเป็นจุดที่เปราะบางที่สุด



สนใจ ติดต่อ 

C Line

0 8 - 3 0 3 - 1 1 1 - 7 8